Research

Bioremediation in Landscape Design

Bioremediation in Landscape Design

What is Bioremediation ?  การบำบัดสารมลพิษทางชีวภาพ (Bioremediation) หมายถึงการใช้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเพื่อสลายสารพิษอันตรายในดิน ตะกอนดิน น้ำ หรือองค์ประกอบอื่นๆ ที่ปนเปื้อน ให้กลายเป็นสารประกอบที่ไม่มีพิษ หรือมีพิษน้อยลง กระบวนการนี้คือกระบวนการธรรมชาติที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของสารพิษ เช่น พวกสารปนเปื้อนประเภทสารประกอบคาร์บอน (Hydrocarbon) ที่สามารถเปลี่ยนมาอยู่ในรูปแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide) หรือมีเทน (Methane) ร่วมกับน้ำและสารอินทรีย์ ถึงอย่างนั้นในบางกรณีสารพิษที่ย่อยสลายอาจมีสารพิษมากกว่าสารตั้งต้น เช่น สารประกอบระหว่างคลอรีนและไฮโดรคาร์บอน ดังนั้นในการเลือกใช้วิธีการบำบัดสารมลพิษทางชีวภาพ เราจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆอย่างเหมาะสม ดังนี้ – คุณสมบัติของสารพิษ: ครอบคลุมถึงความสามารถในการแพร่กระจายในพื้นที่ทั้งแนวราบและแนวนอน ความเข้มข้นของสารพิษในพื้นที่ โอกาสการแพร่กระจายในอนาคตวึ่งเกี่ยวข้องกับลักษณะทางธรณีสัณฐานของพื้นที่ – ความใกล้ชิดของมนุษย์กับพื้นที่: พื้นที่ที่เหมาะต่อการใช้การบำบัดสารมลพิษทางชีวภาพคือ พื้นที่ที่มีขอบเขตชัดเจน มีการแพร่กระจายต่ำ และมีค่าความเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตต่ำ – ความสามารถในการสลายตัวของสารพิษ: สารพิษแต่ละชนิดจะมีอัตราการย่อยสลายที่แตกต่างกันไป สารประกอบอินทรีย์อย่าง ปิโตรเลียม จะย่อยสลายทางชีวภาพง่ายกว่าสารประกอบที่มีโครงสร้างซับซ้อนแบบ พลาสติก – แผนการใช้งานพื้นที่: การจัดการความเสี่ยงของการรับสารปนเปื้อน เพื่อประเมินดูว่าอัตราการสลายสารพิษนั้นเหมาะสมกับแผนหรือระยะเวลาการพัฒนาพื้นที่หรือไม่ – ความสามารถในการติดตามผล: กระบวนการจำเป็นต้องมีการติดตามอัตราการบำบัดสารพิษอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้กรอบเวลาการบำบัดและกระบวนการทำงาน แบ่งเป็น 2

Bioremediation in Landscape Design Read More »

Cover_Alternative Transportation

Active Mobility: Alternative Transportation

แม้เมืองเดินได้หรือ Walkable City ดูจะเป็นความฝันของใครหลายคน ไม่ว่าจะคนที่อยู่อาศัยในเมืองเองอย่างเราๆ หรือเหล่านักพัฒนาเมือง อย่างไรก็ดีบางครั้งการพัฒนาการเดินเท้าในเชิงกายภาพกลับหลงลืมคำนึงถึงความสามารถในการใช้งานของประชากรสูงวัยหรือเด็กเข้าไปด้วย ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรและพื้นที่ต่างๆในเมือง ด้วยเหตุนี้แนวคิดการสัญจรในเมืองจึงต้องพัฒนาไปสู่แนวทางที่ลดการใช้งานรถยนต์ส่วนตัว สนับสนุนให้มีการสัญจรทางเลือกควบคู่กับระบบขนส่งสาธารณะ พร้อมเชื่อมโยงกับประเด็นด้านสุขภาพ กลายเป็นแนวคิดของ Active Mobility หรือการกระตุ้นให้เกิดการสัญจรทางเลือก คือไม่บริโภคพลังงานเชื้อเพลิงและเพิ่มกิจกรรมทางกายมากขึ้นแทน แน่นอน นอกจากจะช่วยส่งเสริมสุขภาพคนเมืองแล้ว Active Mobility ยังช่วยลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก พร้อมช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆจากการใช้รถยนต์อย่าง จราจรติดขัด ความปลอดภัย มลภาวะทางอากาศ หรือมลพิษ รวมถึงจัดการการสัญจรบนท้องถนนให้เป็นมิตรมากขึ้นด้วย  ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อสร้าง Active Mobility   ด้วยความที่ Active Mobility คือการสัญจรทางเลือกที่ไม่บริโภคพลังงานเชื้อเพลิง และส่งเสริมกิจกรรมทางกาย แนวทางการพัฒนาจึงเป็นไปตามดังนี้ :   ด้านการสัญจร ต้องพัฒนารูปแบบการสัญจรที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมการสัญจรหลากหลายรูปแบบ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองเพื่อเตรียมรองรับแนวทางการสัญจรทางเลือก โดยพิจารณาหลักการ 5 ข้อ :   1. Density ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานตัดผ่านพื้นที่ที่มีโอกาสในการใช้งานเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ2. Destination ต้องทำเส้นทางที่สามารถเข้าถึงได้ดี และมีความเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่างๆอย่างเป็นระบบ   3. Design ต้องมีการออกแบบเส้นทางให้ใช้งานง่ายและปลอดภัย

Active Mobility: Alternative Transportation Read More »

Cover_A Park for dog

A park of dogs

Throughout this whole pandemic, one main struggle that the majority faced is the lockdown that restricts us from going out in public, whether for work-related duties or for leisure recreations. We cannot deny the fact that humans need socialization with one another. As of now, we already feel deprived enough from not being able to

A park of dogs Read More »

Shma Company Limited

93/2 Ekkamai 3 Sukhumvit 63 Klongton Nuer Vadhana Bangkok, Thailand 10110

T +662-390-1977
F +662-390-1974
admin@shmadesigns.com

Burger to X Animation